พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกําหนดหน้าที่ของส่วนราชการ กองทัพเรือ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2552

พระราชกฤษฎีกา แบ่งส่วนราชการและกําหนดหน้าที่ของส่วนราชการ กองทัพเรือ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๕๒

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแบ่งส่วนราชการและกําหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพเรือ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๕๑ จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกําหนดหน้าที่ ของส่วนราชการกองทัพเรือ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๕๒”

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้ บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้ แบ่งส่วนราชการกองทัพเรือ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ดังต่อไปนี้

(๑) สํานักงานเลขานุการกองทัพเรือ  

(๒) กรมสารบรรณทหารเรือ 

(๓) กรมกําลังพลทหารเรือ 

(๔) กรมข่าวทหารเรือ 

(๕) กรมยุทธการทหารเรือ 

(๖) กรมส่งกําลังบํารุงทหารเรือ 

(๗) กรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ 

(๘) กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ 

(๙) สํานักงานปลัดบัญชีทหารเรือ 

(๑๐) กรมการเงินทหารเรือ 

(๑๑) กรมจเรทหารเรือ 

(๑๒) สํานักงานตรวจสอบภายในทหารเรือ 

(๑๓) สํานักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ 

(๑๔) สํานักงานพระธรรมนูญทหารเรือ 

(๑๕) กองเรือยุทธการ 

(๑๖) ทัพเรือภาคที่ ๑ 

(๑๗) ทัพเรือภาคที่ ๒ 

(๑๘) ทัพเรือภาคที่ ๓ 

(๑๙) หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน 

(๒๐) หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง 

(๒๑) ฐานทัพเรือสัตหีบ 

(๒๒) ฐานทัพเรือกรุงเทพ 

(๒๓) กรมสารวัตรทหารเรือ 

(๒๔) กรมอู่ทหารเรือ 

(๒๕) กรมอิเล็กทรอนิกส์ทหารเรือ 

(๒๖) กรมช่างโยธาทหารเรือ

(๒๗) กรมสรรพาวุธทหารเรือ 

(๒๘) กรมพลาธิการทหารเรือ 

(๒๙) กรมแพทย์ซึ่งขึ้นตรงต่อ กองทัพเรือ

(๓๐) กรมการขนส่งทหารเรือ 

(๓๑) กรมอุทกศาสตร์

(๓๒) กรมสวัสดิการทหารเรือ 

(๓๓) กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ 

(๓๔) กรมยุทธศึกษาทหารเรือ     

(๓๕) โรงเรียนนายเรือ  

มาตรา ๔ สํานักงานเลขานุการกองทัพเรือ มีหน้าที่ประสานงานและดําเนินการเกี่ยวกับ งานเลขานุการและงานธุรการให้ กับผู้บัญชาการทหารเรือ รองผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้ช่วยผู้บัญชาการ ทหารเรือ เสนาธิการทหารเรือ และผู้ ดํารงตําแหน่งอื่นตามที่ผู้บัญชาการทหารเรือมอบหมาย ตลอดจน ดําเนินงานและประสานงานเกี่ยวกับการส่งเสริมภาพลักษณ์และการประชาสัมพันธ์ของกองทัพเรือ มีเลขานุการกองทัพเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๕ กรมสารบรรณทหารเรือ มีหน้าที่ดําเนินการเกี่ยวกับงานสารบรรณและ งานธุรการ ตลอดจนให้การฝากและศึกษาวิชาการสารบรรณและวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมสารบรรณทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๖ กรมกําลังพลทหารเรือ มีหน้าที่วางแผน อํานวยการ ประสานงาน กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับกิจการกําลังพล ได้แก่ การเตรียมกําลังพล การจัดหากําลังพล การจัดการกําลังพล การปกครองกําลังพล การสัสดี การศึกษา การสวัสดิการ การบํารุงขวัญ และวินัยทหาร ตลอดจนให้ การฝึกและศึกษาวิชาการกําลังพลและวิชาการอื่นตามที่ได้ รับมอบหมาย มีเจ้ากรมกําลังพลทหารเรือ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๗ กรมข่าวทหารเรือ มีหน้าที่วางแผน อํานวยการ ประสานงาน กํากับการ และ ดําเนินการเกี่ยวกับการข่าว การรักษาความปลอดภัย การทูตฝ่ายทหารเรือไทยในต่างประเทศ การติดต่อกับทูตฝ่ายทหารต่างประเทศในประเทศไทย การพิธีการทูตที่กองทัพเรือต้องร่วมด้วย ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการข่าวและวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมข่าวทหารเรือ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๘ กรมยุทธการทหารเรือ มีหน้าที่วางแผน อํานวยการ ประสานงาน กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการยุทธการ การพัฒนากําลังรบ การกําหนดและจัดทําอัตรากําลัง กิจการความมั่นคง ทางทะเล สนธิสัญญาและพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการด้านการยุทธการ และวิชาการอื่นตามที่ได้ รับมอบหมาย มีเจ้ากรมยุทธการทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๙ กรมส่งกําลังบํารุงทหารเรือ มีหน้าที่วางแผน อํานวยการ ประสานงานและ กํากับการเกี่ยวกับการส่งกําลังบํารุง ได้แก่ การส่งกําลัง การซ่อมบํารุง การลําเลียงขนส่ง การบริการ การรักษาพยาบาลและการส่งกลับ การก่อสร้าง การจัดการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ การฐานทัพ และ การระดมสรรพกําลัง รวมทั้งดําเนินการเกี่ยวกับการสถิติ ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการส่งกําลัง บํารุงและวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมส่งกําลังบํารุงทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๑๐ กรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ มีหน้าที่วางแผน อํานวยการ ประสานงาน กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ การสงคราม อิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ การส่งกําลังและซ่อมบํารุงด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ กิจการวิทยุกระจายเสียง ตลอดจนเป็นศูนย์กลางวิทยาการด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ และกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๑๑ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ มีหน้าที่วางแผน อํานวยการ ประสานงาน กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับกิจการพลเรือน งานดําเนินการทางสงครามการเมืองในหน่วยทหาร การปฏิบัติการจิตวิทยา การช่วยเหลือประชาชน การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาประเทศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของกองทัพเรือ และสนับสนุนงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ตลอดจน ให้การฝึกและศึกษาวิชาการกิจการพลเรือนและวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมกิจการ พลเรือนทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๑๒ สํานักงานปลัดบัญชีทหารเรือ มีหน้าที่วางแผน อํานวยการ ประสานงาน กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการงบประมาณ การบริหารทรัพยากร การบัญชี และการควบคุมภายใน ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการกิจการปลัดบัญชีและวิชาการอื่นตามที่ได้ รับมอบหมาย มีปลัดบัญชีทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๑๓ กรมการเงินทหารเรือ มีหน้าที่ดําเนินการเกี่ยวกับการเบิก รับ จ่าย และเก็บรักษาเงิน และการดําเนินงานด้านการเงิน การบัญชี ตลอดจนการพัฒนาและการฝึกศึกษาของเหล่าทหารการเงิน มีเจ้ากรมการเงินทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๑๔ กรมจเรทหารเรือ มีหน้าที่ตรวจ ประเมินค่า เสนอแนะ และติดตาม ผลการปฏิบัติราชการของหน่วยต่าง ๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ คําสั่ง ธรรมเนียม ของทหารและวิธีปฏิบัติทางเทคนิค รวมทั้งประสิทธิภาพและความพร้อมของหน่วย ตลอดจนสืบสวน สอบสวนในเรื่องที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมจเรทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๑๕ สํานักงานตรวจสอบภายในทหารเรือ มีหน้าที่ดําเนินการตรวจสอบภายใน โดยอิสระ เพื่อประเมินค่าประสิทธิผลในการควบคุมและบริหารทรัพยากรตามความมุ่งหมายของ กองทัพเรือ มีผู้อํานวยการสํานักงานตรวจสอบภายในทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๑๖ สํานักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ มีหน้าที่อํานวยการและประสานงาน การจัดหายุทโธปกรณ์หลักและยุทโธปกรณ์ที่กองทัพเรือมอบหมาย รวมทั้งสนับสนุนการส่งกําลังบํารุงรวมของยุทโธปกรณ์ที่กองทัพเรือจัดหา ตลอดจนดําเนินการเกี่ยวกับการศึกษาติดตามเทคโนโลยีทางทหาร มีผู้อํานวยการสํานักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๑๗ สํานักงานพระธรรมนูญทหารเรือ มีหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายของกองทัพเรือ พิจารณาเสนอแนะและดําเนินการเกี่ยวกับงานด้านกฎหมาย ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการ ด้านกฎหมายและวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีผู้อํานวยการสํานักงานพระธรรมนูญทหารเรือ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๑๘ กองเรือยุทธการ มีหน้าที่จัดและเตรียมกําลังทางเรือและกําลังทางอากาศ อํานวยการฝึกหน่วยในบังคับบัญชาให้มีสมรรถภาพและพร้อมที่จะทําการรบได้ มีผู้บัญชาการกองเรือยุทธการเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๑๙ ทัพเรือภาคที่ ๑ มีหน้าที่ป้องกันราชอาณาจักรและรักษาความมั่นคง รวมทั้ง ผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่รับผิดชอบจากภัยคุกคามต่าง ๆ และดําเนินการเกี่ยวกับการฐานทัพ การป้องกันพื้นที่ การสารวัตรทหาร กิจการพลเรือน และการควบคุมเรือพาณิชย์ตามที่ได้รับมอบหมาย มีผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๑ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๒๐ ทัพเรือภาคที่ ๒ มีหน้าที่ป้องกันราชอาณาจักรและรักษาความมั่นคง รวมทั้ง ผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่รับผิดชอบจากภัยคุกคามต่าง ๆ และดําเนินการเกี่ยวกับการฐานทัพ การป้องกันพื้นที่ การสารวัตรทหาร กิจการพลเรือน และการควบคุมเรือพาณิชย์ตามที่ได้รับมอบหมาย มีผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๒๑ ทัพเรือภาคที่ ๓ มีหน้าที่ป้องกันราชอาณาจักรและรักษาความมั่นคง รวมทั้ง ผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่รับผิดชอบจากภัยคุกคามต่าง ๆ และดําเนินการเกี่ยวกับการฐานทัพ การป้องกันพื้นที่ การสารวัตรทหาร กิจการพลเรือน และการควบคุมเรือพาณิชย์ตามที่ได้รับมอบหมาย มีผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๒๒ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน มีหน้าที่จัดและเตรียมกําลังฝ่ายนาวิกโยธิน อํานวยการฝึกหน่วยในบังคับบัญชาให้ มีสมรรถภาพและพร้อมที่จะทําการรบได้ มีผู้บัญชาการหน่ยบัญชาการ นาวิกโยธินเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๒๓ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง มีหน้าที่จัดและเตรียมกําลังป้องกันภัยทางอากาศและภัยทางทะเลตามที่ไดเ รับมอบหมาย อํานวยการฝึกหน่วยในบังคับบัญชาให้มีสมรรถภาพ และพร้อมที่จะทําการรบได้ มีผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๒๔ ฐานทัพเรือสัตหีบ มีหน้าที่ดําเนินการเกี่ยวกับการฐานทัพ การรักษาความสงบเรียบร้อย และระเบียบวินัยของทหาร การสารวัตรทหาร การรักษาความปลอดภัยฐานที่ตั้งหน่วยทหารและพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย การกิจการพลเรือน การเรือนจํา การสวัสดิการ และสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการด้านการฐานทัพและวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีผู้ บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๒๕ ฐานทัพเรือกรุงเทพ มีหน้าที่ดําเนินการเกี่ยวกับการฐานทัพ การป้องกันพื้นที่ การรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความปลอดภัยฐานที่ตั้งหน่วยทหารและพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย  การกิจการพลเรือน การควบคุมเรือพาณิชย์ การเรือนจํา การดุริยางค์ ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการ ด้านการฐานทัพ การดุริยางค์ และวิชาการอื่นตามที่ได้ รับมอบหมาย มีผู้บัญชาการฐานทัพเรือกรุงเทพ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๒๖ กรมสารวัตรทหารเรือ มีหน้าที่อํานวยการ ประสานงาน กํากับการและดําเนินการ เกี่ยวกับการรักษาระเบียบวินัย การจับกุมบุคคลที่อยู่ในอํานาจศาลทหาร การสืบสวนสอบสวนคดีอาญา ซึ่งอยู่ในอํานาจศาลทหาร การจราจรในกิจการทหาร การรักษาความปลอดภัย การพิจารณาอํานวยการ ในยามสงครามเกี่ยวกับทหารพลัดหน่วย เชลยศึก ชนชาติศัตรู และผู้ลี้ภัย ตลอดจนให้การฝึกและ ศึกษาวิชาการสารวัตรและวิชาการอื่นตามที่ได้ รับมอบหมาย มีผู้บังคับการกรมสารวัตรทหารเรือ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๒๗ กรมอู่ทหารเรือ มีหน้าที่อํานวยการ ประสานงาน แนะนํา กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการซ่อม สร้าง ดัดแปลง ทดสอบ วิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับเรือ ยานรบ และอุปกรณ์การช่างที่เกี่ยวข้อง การส่งกําลังพัสดุสายช่าง ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการช่าง และวิชาการอื่นตามที่ได้ รับมอบหมาย มีเจ้ากรมอู่ทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๒๘ กรมอิเล็กทรอนิกส์ทหารเรือ มีหน้าที่อํานวยการ ประสานงาน แนะนํา กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการซ่อม สร้าง ดัดแปลง ทดสอบ วิจัยและพัฒนาเครื่องมือและ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ การส่งกําลังพัสดุสายอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์และวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมอิเล็กทรอนิกส์ทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ  

มาตรา ๒๙ กรมช่างโยธาทหารเรือ มีหน้าที่อํานวยการ ประสานงาน แนะนํา กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการซ่อม สร้าง ดัดแปลง และบํารุงรักษาอาคารสถานที่ สิ่งก่อสร้าง เครื่องทุ่นแรง และอุปกรณ์สายช่างโยธา การส่งกําลังพัสดุสายช่างโยธา การวิจัยและพัฒนา ตลอดจนให้การฝึกและ ศึกษาวิชาการช่างโยธาและวิชาการอื่นตามที่ได้ รับมอบหมาย มีเจ้ากรมช่างโยธาทหารเรือ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๓๐ กรมสรรพาวุธทหารเรือ มีหน้าที่อํานวยการ ประสานงาน แนะนํา กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการซ่อมและสร้างเครื่องสรรพาวุธ การส่งกําลังพัสดุสายสรรพาวุธ การถอดทําลายวัตถุระเบิด รวมทั้งการวิจัยและพัฒนาการสรรพาวุธ ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการสรรพาวุธ และวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมสรรพาวุธทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๓๑ กรมพลาธิการทหารเรือ มีหน้าที่อํานวยการ ประสานงาน แนะนํา กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการส่งกําลังพัสดุสายพลาธิการ การบริการ และการโภชนาการ ตลอดจน ให้การฝึกและศึกษาวิชาการพลาธิการและวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมพลาธิการทหารเรือ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๓๒ กรมแพทย์ทหารเรือ มีหน้าที่อํานวยการ ประสานงาน แนะนํา กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการบริการสุขภาพ การส่งกําลัง และการซ่อมบํารุงพัสดุสายแพทย์ รวมทั้ง การวิจัยและพัฒนาการแพทย์ ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการแพทย์และวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมแพทย์ทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๓๓ กรมการขนส่งทหารเรือ มีหน้าที่อํานวยการ ประสานงาน แนะนํา กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการขนส่ง การซ่อมพาหนะสายขนส่ง การส่งกําลังพัสดุสายขนส่ง รวมทั้ง การวิจัยและพัฒนาการขนส่ง ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการขนส่งและวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมการขนส่งทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ  

มาตรา ๓๔ กรมอุทกศาสตร์ มีหน้าที่อํานวยการ ประสานงาน แนะนํา กํากับการ ดําเนินการ ใหการสนับสนุน และให้บริการด้านอุทกศาสตร์ สมุทรศาสตร์ อุตุนิยมวิทยา วิศวกรรมชายฝั่ง เครื่องหมายทางเรือ การเดินเรือ เวลามาตรฐานประเทศไทย และงานเขตแดนระหว่างประเทศ รวมทั้ง การส่งกําลังพัสดุสายอุทกศาสตร์ สมุทรศาสตร์ และอุตุนิยมวิทยา ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิจัย พัฒนาวิชาการอุทกศาสตร์  สมุทรศาสตร์ อุตุนิยมวิทยา และวิชาการอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมอุทกศาสตร์เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๓๕ กรมสวัสดิการทหารเรือ มีหน้าที่อํานวยการ ประสานงาน แนะนํา กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการสวัสดิการ การแนะนําและส่งเสริมการอาชีพทั่วไปแก่ทหาร ข้าราชการ ลูกจ้าง และครอบครัวในกองทัพเรือ ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมสวัสดิการทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๓๖ กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ มีหน้าที่อํานวยการ ประสานงาน แนะนํา กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนากิจการทางวิทยาศาสตร์ของกองทัพเรือ การส่งกําลังพัสดุสายวิทยาศาสตร์ การวิเคราะห์และทดสอบพัสดุ การปฏิบัติและการป้องกันทางนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี ตลอดจนให้การฝึกและศึกษาวิชาการวิทยาศาสตร์และวิชาการอื่นตามที่ได้ รับมอบหมาย มีเจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๓๗ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ มีหน้าที่อํานวยการ ประสานงาน แนะนํา กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการฝึกศึกษา การส่งเสริมความรู้ ทั่วไป การส่งกําลังซ่อมบํารุง และบริการพัสดุ ประเภทเครื่องช่วยการศึกษาและตํารา การอนุศาสนาจารย์ งานประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ทหาร การศึกษาวิเคราะห์ จัดทําและประเมินยุทธศาสตร์ และกําหนดหลักนิยมของกองทัพเรือ ตลอดจน ให้การฝึกและศึกษาวิชาการทหารเรือและวิทยาการที่เกี่ยวข้องของสถานศึกษาในบังคับบัญชาและ สถานศึกษาในกํากับ มีเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๓๘ โรงเรียนนายเรือ มีหน้าที่ให้การศึกษา อบรม และดําเนินการฝึกนักเรียนนายเรือ มีผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๓๙ สํานักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ มีหน้าที่วางแผน อํานวยการ ประสานงาน กํากับการ และดําเนินการเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาการทางทหารของกองทัพเรือ ทั้งในด้านหลักการและด้านยุทโธปกรณ์ ตลอดจนรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และประเมินผลการวิจัย และพัฒนาการทางทหาร เพื่อนําไปใช์ หรือนําไปสู์การผลิต มีผู้อํานวยการสํานักงานวิจัยและพัฒนาการ ทางทหารกองทัพเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

มาตรา ๔๐ หน่วยทหารอื่นซึ่งมีฐานะเทียบเท่ากองร้อย กองพัน กรม หรือกองพล ซึ่งขึ้นตรงต่อ กองทัพเรือ มีหน้าที่ตามที่กระทรวงกลาโหมกําหนด

มาตรา ๔๑ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ 

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี