ตัวบทนี้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการแปลภาษา/การศึกษา และไม่ถือว่ามีผลทางกฎหมาย ทั้งนี้ ให้ยึดถือบทบัญญัติต้นฉบับภาษาไทยเท่านั้น ซึ่งได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการและมีผลทางกฎหมาย ตามไฟล์ PDF ที่แนบ
DISCLAIMER: This text has been provided for translation/educational purposes and contains no legal authority. The original text in Thai language shall be accounted as formally adopted and published in attached PDF file; hence, the sole authority with legal force.
ระเบียบ
เริ่มใช้บังคับ : 23 เม.ย. 2562

ระเบียบกรมเจ้าท่า ว่าด้วยหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ทำการงานในเรือที่ใช้ทำการประมง เรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็น เรือขนถ่ายเพื่อการประมง เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง และเรือบรรทุกน้ำจืด ขนาดตั้งแต่ ๑๐ ตันกรอสขึ้นไป พ.ศ. 2562

Marine Department Rule On the criteria for permission to work in vessels used for fishing Cold Storage Fishing Cargo Ship Fishing Vessels Cold Storage Cargo Vessels Fishing tankers and freshwater tankers with a capacity of 10 gross tons and above, 2019



                                                  ระเบียบกรมเจ้าท่า 
ว่าด้วยหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ทำการงานในเรือที่ใช้ทำการประมง เรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็น 
       เรือขนถ่ายเพื่อการประมง เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง 
         และเรือบรรทุกน้ำจืด ขนาดตั้งแต่ ๑๐ ตันกรอสขึ้นไป พ.ศ. 2562 

             เพื่อให้การดำเนินการว่าด้วยการอนุญาตให้ทำการงานในเรือที่ใช้ทำการประมง เรือบรรทุก สินค้าประมงห้องเย็น เรือขนถ่ายเพื่อการประมง เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง และเรือบรรทุกน้ำจืด ขนาดตั้งแต่ ๑๐ ตันกรอสขึ้นไป เป็นไปตามนัยมาตรา ๒๘๕ มาตรา ๒๘๗ มาตรา ๒๘๘ และมาตรา ๒๘๙ แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช ๒๕๕๖ รวมถึงสอดคล้องกับพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ พระราชบัญญัติ ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ พระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ อธิบดีกรมเจ้าท่า จึงวางระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ทำการงานในเรือที่ใช้ทำการประมง เรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็น เรือขนถ่ายเพื่อการประมง เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง และเรือบรรทุกน้ำจืด ขนาดตั้งแต่ ๑๐ ตันกรอสขึ้นไป ไว้ดังต่อไปนี้
      ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมเจ้าท่า ว่าด้วยหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ทำการงาน ในเรือที่ใช้ทำการประมง เรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็น เรือขนถ่ายเพื่อการประมง เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง และเรือบรรทุกน้ำจืด ขนาดตั้งแต่ ๑๐ ตันกรอสขึ้นไป พ.ศ. ๒๕๖๒
      ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
      ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบกรมเจ้าท่า ว่าด้วยหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ทำการงานในเรือที่ใช้ ทำการประมง เรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็น เรือขนถ่ายเพื่อการประมง เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง และเรือบรรทุกน้ำจืด ขนาดตั้งแต่ ๑๐ ตันกรอสขึ้นไป พ.ศ. ๒๕๖๐
     ข้อ ๔ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับกับการจ้างและการเลิกจ้างคนรับจ้างสำหรับทำการในเรือที่ใช้ ทำการประมง เรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็น เรือขนถ่ายเพื่อการประมง เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง และเรือบรรทุกน้ำจืด รวมถึงกรณีการจ้างและการเลิกจ้างคนรับจ้าง สำหรับทำการในเรือในระหว่างเรืออยู่กลางทะเล สำหรับเรือขนาดตั้งแต่ ๑๐ ตันกรอสขึ้นไป
     ข้อ ๕ บรรดาประกาศ ระเบียบ คำสั่ง หรือข้อสั่งการใดที่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้บังคับแทน
ข้อ ๖ ในระเบียบนี้
     “เจ้าของเรือ” หมายความว่า ผู้รับผิดชอบในการควบคุมเรือในฐานะเป็นเจ้าของ ผู้เช่า ผู้ครอบครอง หรือในฐานะอื่นใด
      “คนประจำเรือ” หมายความว่า ผู้ทําการประจำในเรือโดยมีสัญญาการจ้างงานกับเจ้าของเรือ “คนรับจ้างสำหรับทำการในเรือ” หมายความว่า ผู้ทําการประจำในเรือโดยมีสัญญา การจ้างงานกับ เจ้าของเรือ รวมถึงผู้รับจ้างทำการงานในเรือโดยได้รับค่าตอบแทนในทางการที่จ้าง
    “เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง” หมายความว่า เรือบรรทุกน้ำมันที่ใช้ขนถ่ายน้ำมันให้กับเรือที่ใช้ทำการประมง
     “การจ้าง” หมายความว่า การเข้าทำการงานในเรือ “การเลิกจ้าง” หมายความว่า การเลิกทำการงานในเรือ
      “ใบพยานการเลิกจ้าง” หมายความว่า เอกสารที่นายเรือในฐานะตัวแทนเจ้าของเรือออก ให้กับคนประจำเรือเมื่อเลิกจ้างแล้วตามแบบที่เจ้าท่ากำหนดหรือบันทึกการเลิกจ้างในหนังสือคนประจำเรือก็ได้
     “ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตให้ทำการงานในเรือตามระเบียบนี้
    “วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า การดำเนินการยื่นเอกสารด้วยไฟล์ข้อมูล ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการอนุญาตให้ทำการงานในเรือตามระเบียบนี้
    “เรือกลางทะเล” หมายความว่า เรือที่ประสงค์จะจ้างหรือเลิกจ้างคนรับจ้างสำหรับทำการ ในเรือซึ่งอยู่ในทะเลขณะจ้างหรือเลิกจ้าง
    “เรือฝากไป” หมายความว่า เรือที่จะออกจากท่าและนําผู้รับจ้างสำหรับทำการในเรือจากฝั่ง ไปเปลี่ยนแปลงกับผู้รับจ้างสำหรับทำการในเรือของเรือกลางทะเล
    “เรือฝากกลับ” หมายความว่า เรือที่รับผู้รับจ้างสำหรับทำการในเรือจากเรือกลางทะเลเพื่อกลับเข้าฝั่ง
    ข้อ ๗ ให้เจ้าของเรือที่ใช้ทำการประมง เรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็น เรือขนถ่าย เพื่อการประมง เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง และเรือบรรทุกน้ำจืด ขนาดตั้งแต่ ๑๐ ตันกรอสขึ้นไป ที่ประสงค์จะขออนุญาตให้คนทำการงานในเรือ ให้ยื่นคําขออนุญาต ตามแบบแนบท้ายระเบียบนี้ ที่กองมาตรฐานคนประจำเรือ หรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาในพื้นที่ รับผิดชอบ โดยมีหลักฐานที่ใช้ประกอบการพิจารณา ดังนี้
    (๑) สำเนาใบอนุญาตใช้เรือและทะเบียนเรือไทย
     (๒) สำเนาบัตรประจําตัวประชาชนของเจ้าของเรือ
    (๓) กรณีเจ้าของเรือเป็นนิติบุคคลให้ยื่นคําขออนุญาตพร้อมหนังสือรับรองการจดทะเบียน นิติบุคคลที่มีอายุไม่เกิน 5 เดือน และบัตรประจําตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล
   (๔) หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจําตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ ในกรณีที่มีการมอบอำนาจ
   (๕) หลักฐานการจ้างงาน
   (๖) สำเนาหนังสือคนประจำเรือของคนรับจ้าง หรือสำเนาหนังสือเดินทางของคนรับจ้าง หรือสำเนาบัตรประจําตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยของคนรับจ้าง
   (๗) สำเนาใบอนุญาตทำงานของคนรับจ้าง (ถ้ามี)
   (๘) สำเนาใบประกาศนียบัตรของคนประจำเรือตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ในกฎข้อบังคับสำหรับ การตรวจเรือ ที่ยังไม่หมดอายุ
   (๙) ใบพยานการเลิกจ้าง กรณีคนรับจ้างที่ได้เลิกจ้างจากเรือลำก่อน และประสงค์จะทำ การงานในเรือลำใหม่
    ข้อ ๘ เมื่อเจ้าหน้าที่รับคําร้องขออนุญาตและได้ตรวจสอบเอกสารแล้วเห็นว่าถูกต้อง ครบถ้วน ให้ผู้อํานวยการกองมาตรฐานคนประจำเรือ หรือผู้อํานวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา เป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้ทำการงานในเรือตามแบบใบอนุญาตที่แนบท้ายระเบียบนี้
    ข้อ ๙ เมื่อได้รับการอนุญาตให้ลงทำการในเรือประมงแล้ว เจ้าของเรือหรือนายเรือ ต้องบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานไว้ในหนังสือคนประจำเรือของคนประจำเรือทุกคน ไว้สำหรับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในเรือด้วย
    ข้อ ๑๐ กรณีที่มีการแจ้งเข้าและแจ้งออกท่าเทียบเรือประมงของเรือตามระเบียบนี้เจ้าของเรือต้องยื่นแจ้งขอออกรายชื่อคนประจำเรือลำนั้น ที่ออกไปและกลับเข้ามากับเรือลำดังกล่าวทุกครั้ง ที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า - ออก (PIPO)
   ข้อ ๑๑ การจ้างคนรับจ้างสำหรับทำการในเรือ หรือการเลิกจ้างคนรับจ้างสำหรับทำการในเรือระหว่างเรืออยู่กลางทะเล ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้
    (๑) กรณีเจ้าของเรือหรือผู้ควบคุมเรือที่อยู่กลางทะเล ประสงค์จะจ้างคนรับจ้างสำหรับทำการในเรือ เพิ่มในระหว่างที่เรืออยู่กลางทะเล ให้ยื่นคําร้องขอจ้างและฝากคนรับจ้างไปทำการในเรือกลางทะเล ตามแบบ คร ๑-๒ ต่อกองมาตรฐานคนประจำเรือ กรมเจ้าท่า หรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา
     (๒) กรณีเจ้าของเรือหรือผู้ควบคุมเรือที่อยู่กลางทะเล ประสงค์จะเลิกจ้างคนรับจ้างสำหรับ ทำการในเรือเดิมในระหว่างที่เรืออยู่กลางทะเล ให้ยื่นคําร้องขอเลิกจ้างและฝากคนรับจ้างกลับจากการ ทำการในเรือกลางทะเลตามแบบ คร ๑-๓ ต่อกองมาตรฐานคนประจำเรือ กรมเจ้าท่า หรือสำนักงาน เจ้าท่าภูมิภาคสาขา
    (๓) กรณีเจ้าของเรือหรือผู้ควบคุมเรือที่อยู่กลางทะเล ประสงค์จะเลิกจ้างคนรับจ้างสำหรับ ทำการในเรือเดิมและจ้างคนรับจ้างสำหรับทําการในเรือใหม่ ในระหว่างที่เรืออยู่กลางทะเล ให้ยื่นคําร้องขอจ้างและฝากคนรับจ้างไปทำการในเรือกลางทะเลตามแบบ คร ๑-๒ และให้ยื่นคําร้องขอเลิกจ้าง และฝากคนรับจ้างกลับจากการทำการในเรือกลางทะเลตามแบบ คร ๑-๓ ไปพร้อมกัน ต่อกองมาตรฐานคนประจำเรือ กรมเจ้าท่า หรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา
    (๔) เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบคําขอตามข้อ (๑) และเห็นว่าถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้ผู้อํานวยการ กองมาตรฐานคนประจำเรือ กรมเจ้าท่า หรือผู้อํานวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา เป็นผู้พิจารณา ออกใบอนุญาตการจ้างและฝากคนรับจ้างไปทำการในเรือกลางทะเลตามแบบ คร ๔-๓
   (๕) เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบคําขอตามข้อ (๒) และเห็นว่าถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้ผู้อํานวยการ กองมาตรฐานคนประจำเรือ กรมเจ้าท่า หรือผู้อํานวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา เป็นผู้พิจารณา ออกหนังสือการเลิกจ้างและฝากคนรับจ้างกลับจากการทำการในเรือกลางทะเลตามแบบ คร ๔-๔
    (๖) เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบคําขอตามข้อ (๓) และเห็นว่าถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้ผู้อํานวยการ กองมาตรฐานคนประจำเรือ กรมเจ้าท่า หรือผู้อํานวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา เป็นผู้พิจารณา ออกใบอนุญาตการจ้างและฝากคนรับจ้างไปทำการในเรือกลางทะเลตามแบบ คร ๔-๓ และพิจารณา ออกหนังสือการเลิกจ้างและฝากคนรับจ้างกลับจากการทำการในเรือกลางทะเลตามแบบ คร ๔-๔
    (๗) การจ้างคนรับจ้างสำหรับทำการในเรือ หรือการเลิกจ้างคนรับจ้างสำหรับทำการในเรือ ในขณะที่เรืออยู่กลางทะเล ต้องดำเนินการตามมาตรา ๒๘๕ แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช ๒๔๕๖ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในระเบียบนี้ก่อน
   (๘) จำนวนคนรับจ้างสำหรับทำการในเรือของเรือที่ฝากไป เรือที่ฝากกลับ หรือเรือกลางทะเลเมื่อรวมกับคนรับจ้างสำหรับทำการในเรือที่มีอยู่เดิมแล้ว จะต้องไม่เกินจำนวนที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตใช้เรือ
    (๙) เมื่อทำการเปลี่ยนแปลงคนรับจ้างสำหรับทำการในเรือแล้ว ให้ผู้ควบคุมเรือของเรือกลางทะเล ลงลายมือชื่อในต้นฉบับและสำเนาใบอนุญาตและหนังสือตาม (๔) ถึง (๖) เพื่อรับรองว่ามีการเปลี่ยนแปลงคนตามที่ได้รับอนุญาตจริง
     ต้นฉบับใบอนุญาตการจ้างและฝากคนรับจ้างไปทำการในเรือกลางทะเลให้เก็บไว้ในเรือกลางทะเล สำเนาใบอนุญาตดังกล่าวให้เก็บไว้ในเรือที่ฝากไป
     ต้นฉบับหนังสือการเลิกจ้างและฝากคนรับจ้างกลับจากการทำการในเรือในเรือกลางทะเล ให้เก็บไว้ในเรือกลางทะเล สำเนาหนังสือดังกล่าวให้เก็บไว้ในเรือที่ฝากกลับ
เมื่อเรือที่ฝากไป หรือที่ฝากกลับแล้วแต่กรณีกลับถึงฝั่ง ให้ทำสำเนาใบอนุญาตและสำเนาหนังสือการเลิกจ้างเพิ่มเติมและส่งให้กรมเจ้าท่าเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน
   (๑๐) กรณีที่เรือกลางทะเลมีความประสงค์ที่จะฝากคนรับจ้างกลับเข้าฝั่งด้วยเหตุอื่น เช่น เพื่อความปลอดภัยแก่ชีวิต สุขภาพ และอนามัย หรือมีเหตุฉุกเฉิน หรือมีปัญหาข้อพิพาทของคนรับจ้าง ทำการในเรือ ให้เจ้าของเรือแจ้งการฝากคนรับจ้างสำหรับทำการในเรือกลับต่อศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกภายใน ๒๔ ชั่วโมง นับแต่คนรับจ้างสำหรับทำการในเรือลงเรือที่ฝากกลับ และให้ดำเนินการ ตามกฎหมายว่าด้วยการประมงด้วย
    ข้อ ๑๒ กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงนายจ้างหรือเพิ่มนายจ้างตามระเบียบของกรมการจัดหางานเรียบร้อยแล้ว ให้นายจ้างใหม่ยื่นขอปรับปรุงข้อมูล ที่กองมาตรฐานคนประจำเรือ กรมเจ้าท่า หรือสานักงาน เจ้าท่าภูมิภาคสาขาด้วยทุกครั้ง
     ข้อ ๑๓ กรณีคนรับจ้างสำหรับทำการในเรือที่มีชื่อในใบอนุญาตของนายจ้าง ไม่ได้ลงทำงาน ในเรือเกิน ๖๐ วันขึ้นไป ให้เจ้าหน้าที่กองมาตรฐานคนประจำเรือแจ้งให้กรมสวัสดิการและคุ้มครอง แรงงานดำเนินการตรวจสอบการจ้างงานต่อไป
    ข้อ ๑๔ เมื่อมีการเลิกจ้าง เจ้าของเรือต้องแจ้งการเลิกจ้าง ที่กองมาตรฐานคนประจำเรือ กรมเจ้าท่า หรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา โดยเจ้าของเรือต้องออกใบพยานการเลิกจ้างให้กับ คนประจำเรือไว้เป็นหลักฐาน และหรือบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการเลิกจ้างไว้ในหนังสือคนประจำเรือ ของคนประจำเรือทุกครั้ง
    ข้อ ๑๕ เมื่อเจ้าของเรือออกใบพยานเลิกจ้างให้กับคนประจำเรือเรือเรียบร้อยแล้ว ให้เจ้าของเรือ แจ้งการเลิกจ้างคนประจำเรือกับเจ้าหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการออกใบอนุญาตฉบับใหม่ ให้กับเจ้าของเรือและยกเลิกใบอนุญาตฉบับเดิม
    ข้อ ๑๖ การอนุญาตให้ทำการงานในเรือและการเลิกจ้างตามระเบียบนี้ เจ้าของเรือต้องเสีย ค่าธรรมเนียมตามอัตราที่กฎกระทรวงกำหนด
    ข้อ ๑๗ ให้สัญญาจ้างให้ทำการงานในเรือที่ใช้ทำการประมง เรือบรรทุกสินค้าประมง ห้องเย็น เรือขนถ่ายเพื่อการประมง เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น เรือบรรทุกน้ำมันและเรือบรรทุกน้ำจืด ขนาดตั้งแต่ ๑๐ ตันกรอสขึ้นไปที่มีการอนุญาตตามระเบียบนี้ ให้มีอายุได้คราวละไม่เกิน ๑ ปี นับแต่วันที่จ้าง ที่ปรากฏตามบัญชีคนทํางานในเรือแนบท้ายใบอนุญาต
   ข้อ ๑๘ การขออนุญาตให้ทำการงานในเรือตามระเบียบนี้ สามารถทำการขออนุญาต และ ส่งสำเนาเอกสารต่าง ๆ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้ทางระบบ Single Window 4 Fishing Fleet ของกรมเจ้าท่า (http://fpipo.md.go.th) และสามารถออกใบอนุญาตที่มีการลงลายมือชื่อของเจ้าพนักงาน แบบอิเล็กทรอนิกส์โดยให้ถือว่าการดำเนินการต่าง ๆ รวมทั้งการออกใบอนุญาตที่มีการลงลายมือชื่อ ของเจ้าพนักงานแบบอิเล็กทรอนิกส์นั้น มีผลผูกพันตามที่กฎหมายในเรื่องนั้น ๆ บัญญัติไว้ทุกประการ ข้อ ๑๙ ให้อธิบดีกรมเจ้าท่าเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้

                                                                                       ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒
                                                                                                         สมศักดิ์ ห่มม่วง
                                                                                                        อธิบดีกรมเจ้าท่า