ตัวบทนี้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการแปลภาษา/การศึกษา และไม่ถือว่ามีผลทางกฎหมาย ทั้งนี้ ให้ยึดถือบทบัญญัติต้นฉบับภาษาไทยเท่านั้น ซึ่งได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการและมีผลทางกฎหมาย ตามไฟล์ PDF ที่แนบ
DISCLAIMER: This text has been provided for translation/educational purposes and contains no legal authority. The original text in Thai language shall be accounted as formally adopted and published in attached PDF file; hence, the sole authority with legal force.
ประกาศ
เริ่มใช้บังคับ : 27 พ.ค. 2542

ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือซึ่งเป็นกิจการค้าขาย อันเป็นสาธารณูปโภคอันกระทบกระเทือนถึงความปลอดภัยหรือผาสุกของประชาชน ตามข้อ ๓ (๙) แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕


ประกาศกระทรวงคมนาคม

เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือซึ่งเป็นกิจการค้าขาย

อันเป็นสาธารณูปโภคอันกระทบกระเทือนถึงความปลอดภัยหรือผาสุกของประชาชน

ตามข้อ ๓ (๙) แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘

ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕

                       

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงแก้ไขเงื่อนไขในการอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเลซึ่งเป็นกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภคอันกระทบกระเทือนถึงความปลอดภัยหรือผาสุกของประชาชนตามข้อ ๓ (๙) แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

 

อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๗ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ และมาตรา ๕ แห่งพระราชกฤษฎีกา กำหนดให้กิจการท่าเรือเดินทะเลเป็นกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภคอันกระทบกระเทือนถึงความปลอดภัยหรือผาสุกของประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

 

ข้อ ๑  ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือ ซึ่งเป็นกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภคอันกระทบกระเทือนถึงความปลอดภัยหรือผาสุกของประชาชนตามข้อ ๓ (๙) แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๙

 

ข้อ ๒  ในประกาศนี้

“ท่าเรือ” หมายความว่า สถานที่สำหรับให้บริการแก่เรือเดินทะเลที่มีขนาดตั้งแต่ห้าร้อยตันกรอสขึ้นไป ในการจอด เทียบ บรรทุก หรือขนถ่ายของ และให้หมายความรวมถึงสิ่งลอยน้ำอื่นใดไม่ว่าจะมีเครื่องจักรสำหรับขับเคลื่อนหรือไม่ก็ตาม ซึ่งใช้เพื่อวัตถุประสงค์อย่างเดียวกันแต่มิได้ใช้เพื่อการขนส่ง

“ผู้รับอนุญาต” หมายความว่า ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีให้ประกอบกิจการท่าเรือ

 

ข้อ ๓  ผู้ใดประสงค์จะประกอบกิจการท่าเรือที่ให้บริการในการจอดเทียบ บรรทุก หรือขนถ่ายสินค้าแก่เรือเดินทะเลที่มีขนาดตั้งแต่ห้าร้อยตันกรอสขึ้นไป ไม่ว่าจะมีการเรียกค่าตอบแทนในการให้บริการหรือไม่ ให้ยื่นคำร้องขออนุญาตต่อรัฐมนตรี ณ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีตามแบบ และวิธีการที่กำหนด

 

ข้อ ๔  คำร้องขออนุญาตตามข้อ ๓ ให้ยื่นพร้อมด้วยเอกสารและหลักฐาน ดังต่อไปนี้

(๑) หลักฐานแสดงว่าการประกอบกิจการท่าเรืออยู่ในขอบวัตถุประสงค์ของผู้ขออนุญาตในกรณีที่ผู้ขออนุญาตเป็นนิติบุคคล

(๒) ใบอนุญาตให้สร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำหรือใบอนุญาตให้ใช้ท่าเทียบเรือ ตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย หรือหลักฐานแสดงว่าได้มีการขอต่ออายุใบอนุญาตดังกล่าว

(๓) เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือสิทธิใช้สอยที่ดินบริเวณท่าเรือ หรือหลักฐานแสดงว่าผู้ขออนุญาตกำลังดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือสิทธิใช้สอยที่ดินบริเวณท่าเรือ

(๔) บัตรส่งเสริมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ถ้ามี

(๕) แผนผังแสดงบริเวณท่าเรือและสิ่งปลูกสร้างภายในบริเวณท่าเรือ

(๖) แผนที่สังเขปแสดงเส้นทางคมนาคมเข้าออกท่าเรือ

(๗) แผนที่สังเขปแสดงที่ตั้งท่าเรือนั้น และท่าเรืออื่นที่ใช้บรรทุก หรือขนถ่ายสินค้าประเภทเดียวกัน ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน

(๘) อัตราค่าบริการที่เรียกเก็บจากผู้อื่น กรณีที่ท่าเรือนั้นให้บริการแก่ผู้อื่นด้วย

(๙) เอกสารและหลักฐานอื่น ถ้ามี

 

ข้อ ๕  ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือ ให้มีอายุตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต ซึ่งต้องไม่เกิน ๑๕ ปี นับแต่วันออกใบอนุญาต

ในกรณีที่ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือซึ่งยังไม่สิ้นอายุสูญหาย หรือชำรุด เสียหายในสาระสำคัญ ให้ผู้รับอนุญาตขอใบแทนใบอนุญาตจากเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี โดยยื่นคำขอ ณ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีตามแบบและวิธีการที่กำหนด

ผู้รับอนุญาตซึ่งประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำร้องต่อรัฐมนตรี ณ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีตามแบบและวิธีการที่กำหนดก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ มิฉะนั้นจะต้องดำเนินการขออนุญาตตามข้อ ๓ และจะประกอบกิจการหลังจากใบอนุญาตสิ้นอายุแล้วไม่ได้

เมื่อได้ยื่นคำร้องขอต่ออายุใบอนุญาตตามวรรคสามแล้ว ให้ผู้ยื่นคำร้องประกอบกิจการต่อไปได้จนกว่าจะได้รับแจ้งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ว่ารัฐมนตรีไม่อนุมัติให้ต่ออายุใบอนุญาต

 

ข้อ ๖  คำร้องขอต่ออายุใบอนุญาตตามข้อ ๕ ให้ยื่นพร้อมด้วยเอกสารและหลักฐาน ดังต่อไปนี้

(๑) หลักฐานแสดงว่าการประกอบกิจการท่าเรืออยู่ในขอบวัตถุประสงค์ของผู้ยื่นคำร้องในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องเป็นนิติบุคคล

(๒) ใบอนุญาตให้ใช้ท่าเทียบเรือตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย หรือหลักฐานแสดงว่าได้มีการขอต่ออายุใบอนุญาตดังกล่าว

(๓) เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือสิทธิใช้สอยที่ดินบริเวณท่าเรือ หรือหลักฐานแสดงว่าผู้ยื่นคำร้องกำลังดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือสิทธิใช้สอยที่ดินบริเวณท่าเรือ

(๔) แผนผังแสดงบริเวณท่าเรือและสิ่งปลูกสร้างภายในบริเวณท่าเรือที่ขอต่ออายุใบอนุญาต

(๕) แผนที่สังเขปแสดงที่ตั้งของท่าเรือที่ขอต่ออายุใบอนุญาต และท่าเรืออื่นที่ใช้บรรทุก หรือขนถ่ายสินค้าประเภทเดียวกัน ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน

(๖) อัตราค่าบริการที่ขอเปลี่ยนแปลง (ถ้ามี) พร้อมด้วยคำชี้แจงเหตุผลในการขอเปลี่ยนแปลง

(๗) แผนที่สังเขปแสดงเส้นทางคมนาคมเข้าออกท่าเรือ

(๘) เอกสารและหลักฐานอื่น ถ้ามี

 

ข้อ ๗  ผู้รับอนุญาตจะต้อง

(๑) ประกอบกิจการเฉพาะที่รัฐมนตรีอนุญาต

(๒) เรียกเก็บค่าบริการไม่เกินอัตราที่แจ้งไว้ ทั้งนี้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีให้เปลี่ยนแปลงค่าบริการได้

(๓) ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนด

 

ข้อ ๘  ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ ๗ รัฐมนตรีหรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีมอบหมายจะมีคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้รับอนุญาตงดเว้นกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน ให้แก้ไข หรือให้ปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด

ถ้าผู้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติตามคำสั่งในวรรคหนึ่งภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าใบอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือเป็นอันสิ้นสุดลงนับแต่วันถัดไปจากวันที่กำหนดไว้นั้น ทั้งนี้ โดยไม่เป็นการยกเว้นโทษสำหรับการกระทำตามวรรคหนึ่ง

 

ข้อ ๙  ผู้รับอนุญาตซึ่งประสงค์จะขอเปลี่ยนลักษณะของการประกอบกิจการท่าเรือให้ต่างไปจากที่ได้รับอนุญาตไว้ ให้ยื่นคำร้องขออนุญาตเปลี่ยนแปลงต่อรัฐมนตรี ณ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีตามแบบและวิธีการที่กำหนด

 

ข้อ ๑๐  ห้ามมิให้โอนใบอนุญาตแก่บุคคลอื่น เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป[๑]

 

ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒

โชคสมาน สีลาวงษ์

รัฐมนตรีช่วยว่าการ ปฏิบัติราชการแทน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม