ตัวบทนี้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการแปลภาษา/การศึกษา และไม่ถือว่ามีผลทางกฎหมาย ทั้งนี้ ให้ยึดถือบทบัญญัติต้นฉบับภาษาไทยเท่านั้น ซึ่งได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการและมีผลทางกฎหมาย ตามไฟล์ PDF ที่แนบ
DISCLAIMER: This text has been provided for translation/educational purposes and contains no legal authority. The original text in Thai language shall be accounted as formally adopted and published in attached PDF file; hence, the sole authority with legal force.
กฎกระทรวง
เริ่มใช้บังคับ : 3 ก.พ. 2565

กฎกระทรวงการดำเนินการสำหรับสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ พ.ศ. 2564

Ministerial Regulations on the transportation of dangerous goods B.E.2564


การดำเนินการสำหรับสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้

พ.ศ. ๒๕๖๔

________________

          อาศัยอำนาจตามความในมาตรา  ๑๙๐ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย      พระพุทธศักราช ๒๔๕๖ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๓๕ และมาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช ๒๔๗๗ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

 

          ข้อ ๑ กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

          ข้อ ๒ ในกฎกระทรวงนี้

          “ประมวลข้อบังคับระหว่างประเทศ” หมายความว่า ประมวลข้อบังคับว่าด้วยการขนส่งสิ่งของ ที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ทางน้ำระหว่างประเทศ (International Maritime Dangerous Goods Code (IMDG Code)) ซึ่งกำหนดโดยองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ

          “สิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้” หมายความว่า ชั้นของสิ่งของและสิ่งของที่อาจทำให้ เกิดอันตรายขึ้นได้ ตามประกาศที่ออกตามมาตรา ๑๘๙ แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช ๒๔๕๖

          “ภาชนะ” หมายความว่า ถัง ถุง กล่อง หรือสิ่งที่ใช้บรรจุสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้           และหมายความรวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภาชนะดังกล่าวด้วย

          “อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมเจ้าท่า

          ข้อ ๓ ภาชนะที่ใช้บรรจุสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ต้องมีความมั่นคงแข็งแรง รวมทั้งต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้ด้วย

          (๑) ได้ผลิตหรือจัดทำขึ้นตามระบบคุณภาพและมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด และอยู่ใน สภาพพร้อมใช้งาน

 

          (๒) พื้นผิวด้านในภาชนะต้องมีคุณสมบัติที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายเมื่อสัมผัสกับสิ่งของที่บรรจุในภาชนะนั้น

          (๓) ทนทานต่อแรงดันของสิ่งของที่บรรจุ และการกระทบกระแทกตามปกติในการยก การขน           การเคลื่อนย้าย และการจัดเก็บในการขนส่งทางน้ำ

          (๔) ภาชนะเปล่าที่ผ่านการบรรจุสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้มาแล้ว จะต้องผ่านกระบวนการทำความสะอาดและทำให้แห้ง หรือมีการปิดไว้อย่างมิดชิดและมั่นคงในกรณีที่อาจทำได้โดยปลอดภัย ตามสภาพของสิ่งของที่เคยบรรจุในภาชนะนั้น

          ข้อ ๔. วิธีการบรรจุสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ต้องมีวิธีการบรรจุที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับสิ่งของที่บรรจุนั้นและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

          (๑) การบรรจุก๊าซอัดในภาชนะ ต้องมีการบรรจุที่เหมาะสมกับสภาพของภาชนะที่บรรจุ

          (๒) การบรรจุของเหลวในภาชนะ ต้องมีส่วนพร่องไว้ให้เพียงพอสำหรับการขยายตัวของของเหลวนั้น ณ อุณหภูมิสูงสุดระหว่างการขนส่งตามเส้นทางปกติ

          (๓) การใช้วัสดุซึมซับหรือวัสดุบุรองที่จัดทำขึ้นเพื่อรองรับหีบห่อของเหลวที่บรรจุในภาชนะที่ใช้ สำหรับสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ในระหว่างการขนส่งและการจัดเก็บ ต้องมีลักษณะและคุณสมบัติ ดังนี้

          (ก)สามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากของเหลวนั้นให้น้อยที่สุด

          (ข)ต้องจัดไว้ในลักษณะที่สามารถป้องกันการเคลื่อนไหวของภาชนะที่ใช้สำหรับบรรจุสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ โดยหุ้มรอบภาชนะดังกล่าวอยู่ตลอดเวลา

          (ค)มีปริมาณเพียงพอหรือมากพอที่จะซึมซับ และรองรับของเหลวได้ ในกรณีที่สิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ที่บรรจุในภาชนะนั้นเกิดเหตุรั่วไหล

          ข้อ ๕ ประเภทของภาชนะ มาตรฐานของภาชนะ การจัดให้มีและการรับรองการใช้รหัสสหประชาชาติ (United Nation Mark) และข้อปฏิบัติในการบรรจุสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ให้เป็นไปตามที่อธิบดีประกาศกำหนด

          ข้อ ๖ ภาชนะที่ใช้บรรจุสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ต้องมีการจัดทำและ แสดงเครื่องหมายที่ระบุถึงประเภทหรือชนิดของสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้นั้น โดยจะใช้และ แสดงเพียงชื่อทางการค้าอย่างเดียวไม่ได้ รวมทั้งต้องมีเครื่องหมายที่เป็นตรา ฉลาก ป้าย หรือพ่นสีลายฉลุ เพื่อบ่งบอกถึงสภาพความอันตรายของสิ่งของที่บรรจุในภาชนะนั้นไว้อย่างชัดเจนเป็นการเฉพาะ เว้นแต่กรณีที่เป็นภาชนะที่ใช้บรรจุสารเคมีในปริมาณอันจำกัดและมีภาชนะที่ใช้บรรจุสารเคมีเดียวกันที่จะขนส่งเป็นจำนวนมากโดยสามารถจัดเก็บและยกขึ้นเป็นหน่วยเดียวกันได้ อาจไม่ต้องจัดทำ และแสดงเครื่องหมายดังกล่าวก็ได้

          แบบหรือลักษณะของเครื่องหมาย และวิธีการแสดงเครื่องหมายตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่อธิบดีประกาศกําหนด

          ข้อ ๗ การจัดเก็บและการจัดแยกสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ต้องจัดเก็บและ จัดแยกเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและเหมาะสมตามประเภทหรือชนิดของสิ่งของนั้น โดยในการจัดเก็บสิ่งของที่อาจทําให้เกิดอันตรายขึ้นได้ซึ่งเมื่ออยู่รวมกันแล้วอาจทำให้เกิดระเบิด เพลิงไหม้ หรือเป็นอันตราย แก่เรือหรือบุคคลในเรือ ต้องมีการจำแนกประเภท และชนิดของสิ่งของดังกล่าวให้ถูกต้องครบถ้วน และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการขนถ่ายเคลื่อนย้ายและการจัดแยกตามกลุ่มความเข้ากันได้ตามที่อธิบดีประกาศกำหนด

          ข้อ ๘ การจัดเก็บและการจัดแยกสิ่งของที่อาจทําให้เกิดอันตรายขึ้นได้ต่างประเภทหรือ ชนิดกันและไม่สามารถเข้ากันได้ หรือเมื่อจัดเก็บไว้ด้วยกันหรืออยู่ใกล้กันแล้วอาจทำให้เกิดระเบิด เพลิงไหม้ ปฏิกิริยาเคมี หรือเป็นอันตรายแก่เรือหรือบุคคลในเรือ ให้จัดเก็บและจัดแยกสิ่งของดังกล่าว ออกจากกันตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

          (๑) กรณีเป็นวัตถุระเบิดซึ่งมีความเสี่ยงอย่างร้ายแรง ยกเว้นเครื่องกระสุน ต้องเก็บไว้ในตลับที่ปิดไว้อย่างมั่นคงในระหว่างการขนส่ง โดยต้องจัดเก็บแยกจากชนวนจุดระเบิด

          (๒) กรณีเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าและสายไฟฟ้าในห้องหรือช่องระวางที่บรรทุกวัตถุระเบิด ต้องออกแบบและใช้งานในลักษณะที่ทำให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุดในการเกิดเพลิงไหม้หรือระเบิด

          ข้อ ๙ การขนส่งสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ที่เป็นวัสดุกัมมันตรังสี ต้องปฏิบัติ ตามมาตรฐานและข้อกำหนดด้านการขนส่งสารกัมมันตรังสีของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ โดยต้องไม่จัดวางไว้สิ่งของดังกล่าวในบริเวณเดียวกันหรือปะปนกับวัตถุระเบิด ก๊าซไวไฟ ของเหลวไวไฟ ของแข็งไวไฟ วัตถุที่ทำให้เกิดการลุกไหม้ได้เอง วัตถุที่ถูกน้ำแล้วให้ก๊าซไวไฟ วัตถุออกซิไดซ์และออร์แกนนิคเปอร์ออกไซด์ และวัตถุกัดกร่อน รวมทั้งต้องจัดแยกจากบุคคล เครื่องอุปโภค พัสดุไปรษณีย์ และแผ่นฟิล์มถ่ายภาพด้วย

          ข้อ ๑๐ การขนส่งสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ที่มีไอระเหยเป็นอันตราย ต้องจัดเก็บไว้ ในที่ที่มีการระบายอากาศอย่างดีหรือบนปากระวาง

          ข้อ ๑๑ ในการขนส่งสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ต้องจัดให้มีคู่มือกำาหนดความปลอดภัย ในการบรรทุกสินค้า (Cargo Securing Manual) ที่เจ้าท่าให้ความเห็นชอบหรือรับรองแล้ว โดยตลอดเวลาระหว่างการขนส่งนั้นต้องทำการบรรทุก จัดเก็บในเรือ และรัดตรึงสินค้า หน่วยการขนส่งของสินค้า (Cargo Transport Unit) และตู้สินค้า (Freight Container) อย่างถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในคู่มือดังกล่าว

          วิธีการจัดทำและขอความเห็นชอบหรือรับรองคู่มือกำหนดความปลอดภัยในการบรรทุกสินค้า ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีประกาศกำหนด โดยต้องมีมาตรฐานไม่ต่ำกว่าข้อแนะนำ ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ

          ข้อ ๑๒ ในการขนย้ายสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ที่อาจเกิดความร้อนในตัวเองหรือ อาจเกิดการสันดาปในตัวเอง ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ และ ในกรณีที่สิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้เป็นของเหลวไวไฟหรือก๊าซไวไฟ ต้องปฏิบัติตามคําเตือนพิเศษ ในเรื่องการเกิดเพลิงไหม้หรือการเกิดระเบิด ตามมาตรฐานในประมวลข้อบังคับระหว่างประเทศ

          ข้อ ๑๓ การจัดให้มีเอกสารกำกับการขนส่งสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ต้องปฏิบัติตาหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

          (๑) ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ที่ขนส่งในรูปแบบหีบห่อ หรือตู้สินค้า รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือรับรองการบรรจุหีบห่อ ให้ปฏิบัติโดยสอดคล้องตามคำแนะนำในประมวล ข้อบังคับระหว่างประเทศ และต้องแจกจ่ายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสิ่งของดังกล่าวได้ทราบด้วย

          (๒) ให้ระบุประเภทหรือชนิดสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้สำหรับการขนส่งสิ่งของนั้นโดยจะใช้และแสดงชื่อทางการค้าเพียงอย่างเดียวไม่ได้

          (๓) ให้ใช้เอกสารข้อมูลความปลอดภัย  (Material Safety Data Sheet)  ตามที่อธิบดี ประกาศกำหนด

          (๔)กรณีการขนส่งในรูปแบบหีบห่อ เอกสารการขนส่งที่ผู้ขนส่งสิ่งของเป็นผู้จัดทำต้องมีหรือ แนบคำรับรองหรือคำสำแดงว่า สิ่งของที่ส่งนั้นได้บรรจุหีบห่อและจัดทำและแสดงเครื่องหมายอย่างถูกต้อง และอยู่ในสภาพที่เหมาะสมสาหรับการขนส่ง

          (๕) ผู้ที่รับผิดชอบและดำเนินการบรรจุหีบห่อหรือบรรจุสิ่งของที่อาจทําให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ต้องลงนามในคำรับรองการบรรจุสินค้าที่แสดงว่า สิ่งของในภาชนะนั้นถูกบรรจุและรัดตรึงอย่างถูกต้อง และสอดคล้องตามข้อกำหนดในประมวลข้อบังคับระหว่างประเทศ ทั้งนี้ คำรับรองดังกล่าวอาจรวมอยู่ ในเอกสารตาม (๔) ก็ได้

          (๖) เรือที่บรรทุกสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ต้องมีรายชื่อของสิ่งของที่อาจทำให้เกิด อันตรายขึ้นได้ (Proper Shipping Name) ในเอกสารสำแดงรายการสินค้า (Manifest) โดยต้องระบุ แผนการจัดเก็บสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้บนเรือ (Stowage Plan) และตำแหน่งที่ตั้งของสิ่งของนั้น โดยอาจใช้แผนผังการบรรทุกสิ่งของในเรือที่ระบุขั้นและที่ตั้งของสิ่งของที่อาจทำให้เกิด อันตรายขึ้นได้ทั้งหมดบนเรือแทนแผนการจัดเก็บและตำแหน่งที่ตั้งของสิ่งของดังกล่าวก็ได้

          รายละเอียดและวิธีการจัดให้มีเอกสารกำกับตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่อธิบดีประกาศ กําหนด ทั้งนี้ การจัดให้มีเอกสารตามวรรคหนึ่งอาจกระทำในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้

          ข้อ ๑๔  เรือที่บรรทุกหรือขนถ่ายสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ต้องทอดจอด ณ ท่าเรือที่มีเครื่องมือ อุปกรณ์ ลานพักสินค้า สิ่งอำนวยความสะดวก ผู้ปฏิบัติงานกับเรือ และ มาตรการและแผนความปลอดภัยในการขนถ่ายสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ที่เพียงพอและ เป็นไปตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด

          ข้อ ๑๕ เรือที่บรรทุกหรือขนถ่ายสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ต้องทอดจอด ณ ท่าเรือที่มีผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ขณะขึ้นหรือลงเรือ ทั้งนี้ผู้ปฏิบัติงานดังกล่าวต้องมีความรู้และความสามารถเกี่ยวกับการขนถ่ายสิ่งของที่อาจทำให้เกิด อันตรายขึ้นได้ตามวิธีการประเมินความรู้ความสามารถและหลักสูตรการฝึกอบรมตามที่อธิบดีประกาศ กำหนด

          ข้อ  ๑๖  ให้นายเรือหรือผู้ควบคุมเรือรายงานเหตุ กรณีสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ตกหล่นหรือรั่วไหลจากเรือลงในทะเล หรือคาดว่าจะตกหล่นหรือรั่วไหลจากเรือลงในทะเล โดยไม่ชักช้าต่อเจ้าท่า ตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด

          กรณีมีการสละเรือ หรือไม่ได้รับรายงานจากเรือ หรือรายงานที่ได้รับจากนายเรือหรือผู้ควบคุมเรือ ตามวรรคหนึ่งมีรายละเอียดไม่ครบถ้วน ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองเรือหรือผู้ประกอบการเดินเรือ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตามวรรคหนึ่ง

            ข้อ ๑๗ ในการประกาศกำหนดรายละเอียด วิธีการ มาตรฐาน หรือแนวทางสำหรับ การปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ ให้อธิบดีคำนึงถึงหลักเกณฑ์และมาตรฐานขององค์การทางทะเลระหว่าง ประเทศและประมวลข้อบังคับระหว่างประเทศ และต้องไม่เป็นภาระแก่ผู้ประกอบการโดยไม่จำเป็น

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔         

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ    

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม