ข้อบังคับกรมเจ้าท่า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และค่าธรรมเนียม
การตรวจและการออกใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากน้ำมัน พ.ศ. 2566
โดยที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization : IMO) ได้ยอมรับอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากเรือ ค.ศ. 1973 ที่แก้ไขปรับปรุงโดยพิธีสาร ค.ศ. 1978 ภาคผนวก ๑ กฎข้อบังคับว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากน้ำมัน (International Convention for the Prevention of Pollution from Ships, 1973 as modified by the Protocol of 1978 Annex I Regulations for the Prevention of Pollution by Oil) ซึ่งกำหนดให้เรือบรรทุกน้ำมันที่มีขนาดตั้งแต่ 150 ตันกรอสขึ้นไป และเรือที่มิใช่เรือบรรทุกน้ำมันที่มีขนาดตั้งแต่ 400 ตันกรอสขึ้นไป ต้องมีการจัดการการป้องกันมลพิษจากน้ำมัน ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศและการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจและการออกใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากน้ำมันเพื่อปฏิบัติตามอนุสัญญาดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 163/1 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2560 และมาตรา 163 (5) แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2560 เจ้าท่าโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมออกข้อบังคับกรมเจ้าท่าไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับกรมเจ้าท่า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และค่าธรรมเนียมการตรวจและการออกใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากน้ำมัน พ.ศ. 2566”
ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 บรรดากฎข้อบังคับ ข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศในส่วนที่บัญญัติในเรื่องนี้ไว้แล้ว ให้มีผลใช้บังคับต่อไป เว้นแต่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้ให้ใช้ข้อบังคับนี้แทน
ข้อ 4 ข้อบังคับนี้ให้ใช้กับเรือบรรทุกน้ำมันที่มีขนาดตั้งแต่ 150 ตันกรอสขึ้นไป และเรือที่มิใช่เรือบรรทุกน้ำมันที่มีขนาดตั้งแต่ 400 ตันกรอสขึ้นไป
ข้อ 5 ในข้อบังคับนี้
“น้ำมัน” (Oil) หมายถึง น้ำมันปิโตรเลียมในรูปแบบใดๆ รวมถึงน้ำมันดิบ น้ำมันเชื้อเพลิง กากน้ำมัน น้ำมันเสีย และผลิตภัณฑ์จากการกลั่น นอกจากเคมีภัณฑ์ปิโตรเลียมตามข้อบังคับกรมเจ้าท่า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และค่าธรรมเนียมการตรวจและการออกใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากสารเหลวมีพิษในระวางเป็นปริมาตรรวม พ.ศ. 2566 รวมถึงสารต่างๆ ตามบัญชีรายชื่อที่ปรากฏในภาคผนวกที่ 1 ของอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากเรือ ค.ศ. 1973 ที่แก้ไขปรับปรุงโดยพิธีสาร ค.ศ. 1978 ภาคผนวก 1 กฎข้อบังคับว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากน้ำมัน (International Convention for the Prevention of Pollution from Ships, 1973 as modified by the Protocol of 1978 Annex I Regulations for the Prevention of Pollution by Oil, Appendix 1)
“เรือบรรทุกน้ำมัน” (Oil tanker) หมายถึง เรือซึ่งต่อสร้างหรือดัดแปลงเพื่อวัตถุประสงค์หลักในการบรรทุกน้ำมันในระวางเป็นปริมาตรรวม และรวมถึงเรือบรรทุกสินค้ารวมและเรือบรรทุกสารเหลวมีพิษใดๆ ตามข้อบังคับกรมเจ้าท่า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และค่าธรรมเนียมการตรวจและการออกใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากสารเหลวมีพิษในระวางเป็นปริมาตรรวม พ.ศ. 2566 และรวมถึงเรือบรรทุกแก๊สเหลวใดๆ ตามที่ระบุใน Regulation 3.20 Chapter II-1 ของอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล ค.ศ. 1974 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (International Convention for the Safety of Life at Sea, 1974 (SOLAS), as amended) เมื่อเรือนั้นบรรทุกสินค้าประเภทน้ำมันทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นปริมาตรรวม
“เรือบรรทุกสินค้ารวม” (Combination carrier) หมายถึง เรือซึ่งออกแบบสำหรับใช้บรรทุกน้ำมันหรือสินค้าที่เป็นของแข็งในระวางเป็นปริมาตรรวม
“วันครบรอบปี” (Anniversary date) หมายถึง วันและเดือนในแต่ละปี ซึ่งตรงกับวันหมดอายุของใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากน้ำมัน
“เรือที่มิใช่เรือกลที่ไม่ใช้คนประจำเรือ” (Unmanned Non-Self-Propelled (UNSP) barge) หมายถึง
(1) เรือซึ่งไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องจักร
(2) เรือซึ่งไม่มีการบรรทุกน้ำมัน (ตามที่กำหนดไว้ในภาคผนวก 1 ที่แนบท้ายข้อบังคับนี้)
(3) เรือซึ่งไม่มีการติดตั้งเครื่องจักรที่อาจใช้น้ำมันหรือทำให้เกิดคราบน้ำมัน (กากน้ำมัน)
(4) เรือซึ่งไม่มีถังน้ำมันเชื้อเพลิง ถังน้ำมันหล่อลื่น ถังเก็บน้ำปนน้ำมัน และถังเก็บกากน้ำมัน และ
(5) เรือซึ่งไม่มีบุคคลหรือสัตว์ ที่มีชีวิตอยู่บนเรือ
ข้อ 6 เรือตามข้อบังคับนี้ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากเรือ ค.ศ. 1973 ที่แก้ไขปรับปรุงโดยพิธีสาร ค.ศ. 1978 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามภาคผนวก 1 ที่แนบท้ายข้อบังคับนี้หรือตามที่อธิบดีกรมเจ้าท่าประกาศกำหนด
ข้อ 7 เรือตามข้อบังคับนี้ต้องมีใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากน้ำมัน (International Oil Pollution Prevention Certificate) ตามแบบที่กำหนดในภาคผนวก 2 ที่แนบท้ายข้อบังคับนี้หรือตามที่อธิบดีกรมเจ้าท่าประกาศกำหนด
ข้อ 8 เจ้าของเรือหรือตัวแทนเจ้าของเรือที่มีความประสงค์จะให้เจ้าพนักงานตรวจเรือดำเนินการตรวจเรือเพื่อออกใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากน้ำมัน ต้องยื่นคำร้องตามแบบ ก.5 ล่วงหน้าก่อนวันนัดหมายตรวจเรือไม่น้อยกว่า 3 วัน สำหรับการตรวจเรือภายในประเทศ และไม่น้อยกว่า 21 วัน สำหรับการตรวจเรือในต่างประเทศ เมื่อพบว่าเรือเป็นไปตามข้อบังคับนี้ให้เจ้าพนักงานตรวจเรือดำเนินการออกใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากน้ำมัน ภายใน 3 วันทำการนับตั้งแต่ตรวจเรือเสร็จสิ้น
ข้อ 9 อายุและการมีผลของใบสำคัญรับรอง (Duration and Validity of Certificate)
(1) ใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากน้ำมัน ต้องออกให้เป็นระยะเวลาตามที่กรมเจ้าท่าระบุซึ่งต้องไม่เกิน 5 ปี
(2) การตรวจครั้งแรก (Initial survey) เพื่อออกใบสำคัญรับรองครั้งแรก ให้กระทำก่อนนำเรือออกใช้งาน
(3) การตรวจเรือเพื่อออกใบสำคัญรับรองใหม่ (Renewal survey)
(3.1) นอกเหนือจากกรณี ข้อ 9 (1) หากการตรวจเรือเพื่อออกใบสำคัญรับรองใหม่เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือนก่อนวันหมดอายุของใบสำคัญรับรองเดิม ใบสำคัญรับรองใหม่มีผลใช้ได้ ตั้งแต่วันที่เสร็จสิ้นการตรวจเรือจนถึงกำหนด ซึ่งต้องไม่เกิน 5 ปีนับจากวันหมดอายุของใบสำคัญรับรองเดิม
(3.2) หากการตรวจเรือเพื่อออกใบสำคัญรับรองใหม่เสร็จสิ้นหลังจากวันหมดอายุของใบสำคัญรับรองเดิม ให้ใบสำคัญรับรองใหม่มีผลใช้ได้ตั้งแต่วันที่เสร็จสิ้นการตรวจเรือ ทั้งนี้ ใบสำคัญรับรองใหม่ต้องมีอายุไม่เกิน 5 ปีนับจากวันหมดอายุของใบสำคัญรับรองเดิม
(3.3) หากการตรวจเรือเพื่อออกใบสำคัญรับรองใหม่เสร็จสิ้นก่อนวันสิ้นอายุของใบสำคัญรับรองเดิมเกินกว่า 3 เดือน ให้ใบสำคัญรับรองใหม่มีผลใช้ได้ตั้งแต่วันที่เสร็จสิ้นการตรวจเรือ ทั้งนี้ ใบสำคัญรับรองใหม่ต้องมีอายุไม่เกิน 5 ปีนับจากวันที่เสร็จสิ้นการตรวจเรือ
(4) หากการตรวจเรือเพื่อออกใบสำคัญรับรองใหม่เสร็จสิ้นลงแต่ไม่สามารถออกใบสำคัญรับรองใหม่ได้หรือไม่สามารถนำใบสำคัญรับรองไปไว้บนเรือได้ก่อนวันหมดอายุ เจ้าพนักงานตรวจเรือหรือสถาบันการตรวจเรือสามารถสลักหลังใบสำคัญรับรองเดิม เพื่อให้ใบสำคัญรับรองนั้นมีผลต่อไปอีกได้ แต่ไม่เกิน 5 เดือนนับจากวันสิ้นอายุ
(5) การตรวจเรือประจำปีหรือการตรวจเรือตามกำหนดช่วงกลางของใบสำคัญรับรอง ให้ดำเนินการดังนี้
(5.1) การตรวจเรือประจำปี (Annual survey) ให้กระทำทุกปีในช่วงเวลา ก่อนหน้า 3 เดือนหรือหลัง 3 เดือน ของวันครบรอบปีของใบสำคัญรับรอง
(5.2) การตรวจเรือตามกำหนดช่วงกลางของใบสำคัญรับรอง (Intermediate survey) ให้กระทำได้ก่อนหน้า 6 เดือนหรือหลัง 6 เดือนของวันที่ใบสำคัญรับรองครบรอบปีที่ 2 หรือปีที่ 3 ของใบสำคัญรับรอง ให้กระทำแทนที่การตรวจครั้งใดครั้งหนึ่งของการตรวจเรือประจำปีตาม (5.1)
(5.3) วันครบรอบปีที่แสดงในใบสำคัญรับรองต้องได้รับการแก้ไขโดยการสลักหลังและลงวันที่ทำการสลักหลัง ซึ่งต้องไม่เกิน 3 เดือนหลังจากวันที่การตรวจเรือเสร็จสิ้น
(6) ให้ใบสำคัญรับรองที่ออกให้ภายใต้ข้อบังคับนี้ สิ้นสุดลงในกรณีดังต่อไปนี้
(6.1) ไม่ได้ทำการตรวจเรือตามช่วงเวลาที่กำหนดใน (5)
(6.2) เมื่อเรือมีการเปลี่ยนสัญชาติ
ข้อ 10 เจ้าของเรือหรือตัวแทนเจ้าของเรือที่มีความประสงค์จะให้เจ้าพนักงานตรวจเรือดำเนินการตรวจเรือเพื่อออกใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศเพื่อยกเว้นการป้องกันมลพิษจากน้ำมันสำหรับเรือที่มิใช่เรือกลที่ไม่ใช้คนประจำเรือ ต้องยื่นคำร้องตามแบบ ก.5 ล่วงหน้าก่อนวันนัดหมายตรวจเรือไม่น้อยกว่า 3 วัน สำหรับการตรวจเรือภายในประเทศ และไม่น้อยกว่า 21 วัน สำหรับการตรวจเรือในต่างประเทศ เมื่อพบว่าเรือเป็นไปตามข้อบังคับนี้ให้เจ้าพนักงานตรวจเรือดำเนินการออกใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศเพื่อยกเว้นการป้องกันมลพิษจากน้ำมันสำหรับเรือที่มิใช่เรือกลที่ไม่ใช้คนประจำเรือภายใน 3 วันทำการนับตั้งแต่ตรวจเรือเสร็จสิ้น
ข้อ 11 ใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศเพื่อยกเว้นการป้องกันมลพิษจากน้ำมันสำหรับเรือที่มิใช่เรือกลที่ไม่ใช้คนประจำเรือ ให้มีอายุ 1 ปีนับจากวันที่เสร็จสิ้นการตรวจเรือ
แบบใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศเพื่อยกเว้นการป้องกันมลพิษจากน้ำมันสำหรับเรือที่มิใช่เรือกลที่ไม่ใช้คนประจำเรือ ให้เป็นไปตามภาคผนวก 3 ที่แนบท้ายข้อบังคับนี้หรือตามที่อธิบดีกรมเจ้าท่าประกาศกำหนด
ข้อ 12 อัตราค่าธรรมเนียมสำหรับการตรวจเรือเพื่อออกหรือสลักหลังใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากน้ำมัน และใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศเพื่อยกเว้นการป้องกันมลพิษจากน้ำมันสำหรับเรือที่มิใช่เรือกลที่ไม่ใช้คนประจำเรือ ให้เป็นไปตามภาคผนวก 4 ที่แนบท้ายข้อบังคับนี้
ข้อ 13 ใบสำคัญรับรองระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากน้ำมันที่กรมเจ้าท่าออกให้ก่อนวันที่ข้อบังคับนี้ใช้บังคับ ให้ใช้ได้ต่อไปตามกำหนดเวลาและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบสำคัญรับรองนั้น
ข้อ 14 ให้อธิบดีกรมเจ้าท่าเป็นผู้รักษาการตามข้อบังคับนี้ และมีอำนาจออกประกาศเพื่อกำหนดรายละเอียดการปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ พ.ศ. 2566
(นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์)
รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทน
อธิบดีกรมเจ้าท่า